รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV ยังคงมาแรงอย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ราคาน้ำมันที่พุ่งสูงขึ้น คนยุคใหม่ใส่ใจ สิ่งแวดล้อมมากขึ้น นโยบายอุดหนุน จากภาครัฐ รวมถึงค่ายรถยนต์ไฟฟ้า ที่พัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ ออกมา ดึงดูดความสนใจ พิสูจน์ได้จาก ยอดจดทะเบียน รถยนต์ไฟฟ้า 100% ในช่วงครึ่งปีแรก ที่ผ่านมา พบว่ามีสูงถึง 36,501 คัน เพิ่มขึ้นถึง 15% เมื่อเทียบกับปีก่อน สำหรับใคร ที่กำลังสนใจ อยากจะหารถ EV ขับสักคัน วันนี้เราก็มีข้อมูลดี ๆ ของรถ EV ขายดี 5 อันดับแรก มาฝากกันอีกเช่นเคย
ขายดีอันดับ 1 ในไทย ต้องยกให้ BYD Dolphin รถ SUV ขนาดกะทัดรัด ด้วยตัวถังแฮตช์แบ็ก 5 ประตู 5 ที่นั่ง ขับขี่คล่องตัว ตอบโจทย์การใช้งานในเมือง มาพร้อมเทคโนโลยี BLADE BATTERY แบตเตอรี่ความปลอดภัยสูง ชาร์จไว และe-PLATFORM 3.0 แพลตฟอร์มเอกสิทธิ์เฉพาะ จาก BYD ด้วยมอเตอร์ แบบซิงโครนัส ชนิดแม่เหล็กถาวร ทำให้ขับขี่ได้อย่างนุ่มนวล เกาะถนนดีเยี่ยม สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 490 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า (70 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 18.4 กก.-ม. แบตเตอรี่ความจุ 44.9 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็ม คือ 410 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จสูงสุดแบบ DC ที่ 60 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ 12.3 วินาที
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 31.6 กก.-ม. แบตเตอรี่ความจุ 60.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง ระยะทำการสูงสุดเมื่อชาร์จเต็ม คือ 490 กม. (NEDC) รองรับการชาร์จสูงสุดแบบ DC ที่ 70 กิโลวัตต์ อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ที่ 7.0 วินาที
✨ BYD Dolphin มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีครีม (Coastal Crème) สีม่วง (Flora Purple) สีเทา (Alaskan Grey) และ สีชมพู (Coral Pink)
ขายดีเป็นอันดับ 2 ตกเป็นของ BYD Seal รถไฟฟ้าในกลุ่ม Segment D ดีไซน์สปอร์ตพรีเมียมซีดาน ที่เปิดตัวอย่างร้อนแรงในไทย ไปเมื่อปีที่แล้ว ด้วยยอดจองสูงถึง 1,289 คัน ภายในคืนเดียว โดย BYD Seal คันนี้ มาพร้อมเทคโนโลยี แบตเตอรี่ CTB (Cell-To-Body) คือการรวมแบตเตอรี่ เข้ากับตัวรถ เพื่อเพิ่มพื้นที่ในห้องโดยสาร และช่วยเสริมความแข็งแรง ของตัวพื้นฐาน ใต้โครงสร้างรถยนต์ ให้ทนทานต่อการบิดตัว ถือเป็นรถยนต์ไฟฟ้า รุ่นแรกของ BYD ที่ใช้เทคโนโลยีนี้ ด้วยขุมพลังแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ขนาด 82.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 650 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
กำลังสูงสุด 204 แรงม้า (150 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 7.5 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 61.44 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 510 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
กำลังสูงสุด 313 แรงม้า (230 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในเวลา 5.9 วินาที พร้อมแบตเตอรี่ BYD Blade Battery ความจุ 82.56 kWh สามารถขับขี่ได้เป็นระยะทาง 650 กิโลเมตร (มาตรฐาน NEDC)
กำลังสูงสุด 218 แรงม้า (160 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน-เมตร ด้านหลังกำลังสูงสุด 313 แรงม้า (230 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 360 นิวตัน-เมตร ให้กำลังสูงสุดรวม 530 แรงม้า (390 กิโลวัตต์) แรงบิดสูงสุด 670 นิวตัน-เมตร
✨ BYD Seal มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีขาว Frost White, สีเทา (Graphite Grey), และสีครีม (Coastal Cream)
มาต่อกันที่อันดับ 3 ได้แก่ NETA V รถยนต์อเนกประสงค์ 5 ประตู 5 ที่นั่ง ในกลุ่ม B-Segment ดีไซน์เรียบง่าย สไตล์มินิมอล มาพร้อมเทคโนโลยี การขับขี่รอบคัน ด้วยขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 95 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 15.3 กก.-ม. ส่งกำลังสู่ล้อคู่หน้า แบตเตอรี่ความจุ 38.5 กิโลวัตต์ชั่วโมง อัตราเร่ง 0-100 กม./ชม. ในโหมด NORMAL อยู่ที่ 14.2 วินาที ส่วนในโหมด SPORT จะอยู่ที่ 10.8 วินาที สามารถวิ่งได้ระยะทางสูงสุดถึง 384 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
✅ ไฟหน้าแบบโปรเจคเตอร์ดวงใหญ่ แบบอีเกิลอายเลเซอร์
✅ หน้าจอกลางระบบสัมผัสขนาด 14.6 นิ้ว รองรับ iOS และ Android
✅ บรรทุกสัมภาระได้สูงสุด 552 ลิตร
✅ คอนโซลกลางตกแต่งด้วยฟิล์ม INS จากประเทศญี่ปุ่น เพื่อเพิ่มความรู้สึกเรียบหรู
✅ เบาะหุ้มหนังสไตล์สปอร์ต ออกแบบตามหลัก สรีรศาสตร์นั่งสบาย
✅ สปอยเลอร์หลังสไตล์สปอร์ต
✅ ไฟท้ายเป็นแบบ LED สลักลายด้วยเลเซอร์
✨ NETA V มีให้เลือก 6 สี ได้แก่ สีเขียว (Moonlight Green) , สีขาว (White Storm) , สีน้ำเงิน (Sky Blue) , สีฟ้า Cyan , สีชมพู (Sakura Pink) และ สีเทา (Midnight Grey)
ขายดีอันดับ 4 ได้แก่ BYD Atto 3 เป็นรถยนต์อเนกประสงค์ ขนาดกะทัดรัด เหมาะสำหรับการขับขี่ ในชีวิตประจำวัน โดดเด่นด้วยดีไซน์สปอร์ตเรียบหรู มาพร้อมขุมพลัง มอเตอร์ไฟฟ้าแบบ Permanent Magnet Synchronous Motor กำลังสูงสุด 204 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร แบตเตอรี่ BYD Blade Battery Lithium-ion phosphate (LFP) ขนาด 50.25 kWh สามารถวิ่งได้ ระยะทางสูงสุดถึง 480 กิโลเมตร ต่อการชาร์จไฟ 1 ครั้ง
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์หรือ 201 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 310 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร / ชั่วโมง ภายใน 7.9 วินาที แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 50.25 กิโลวัตต์ ให้ระยะทางวิ่ง ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 410 กิโลเมตร
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 150 กิโลวัตต์ (201 แรงม้า) แรงบิดสูงสุด 310 นิวตัน อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 7.3 วินาที แบตเตอรี่ Blade Battery ความจุ 60.48 kWh ให้ระยะทางวิ่ง ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 480 กิโลเมตร
✨ BYD Atto3 มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ (Solar) สีขาว (Frost), สีเทา (Graphite), สีเขียว (Emerald), สีฟ้า (Lagoon), สีแดง (Solar) *ขึ้นอยู่กับรุ่น*
ขายดีเป็นอันดับ 5 ตกเป็นของค่าย MG อย่าง NEW MG4 ELECTRIC รถยนต์ไฟฟ้า ขับเคลื่อนล้อหลัง ที่ถูกออกแบบ และพัฒนาขึ้น เพื่อให้เป็น รถยนต์ไฟฟ้า โดยเฉพาะ ไม่ได้มีการต่อยอด จากรถสันดาป เหมือนทั่ว ๆ ไป ทำให้สามารถ ใช้งานร่วมกับ รถยนต์ไฟฟ้า ได้หลากหลาย Segment ตั้งแต่แฮตช์แบ็ก ซีดาน ไปจนถึงกระบะ และยังรองรับการใช้แบตเตอรี่ ได้หลากหลายความจุอีกด้วย โดยมีฐานล้อที่กว้างถึง 1,562 มม. เทียบเท่ารถในกลุ่ม C-Segment แต่ MG4 นำเสนอรุ่นนี้ ให้อยู่ในกลุ่ม B-Segment
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรแบตเตอรี่ ความจุ 49 kWh ห้ระยะทางวิ่ง ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 423 กิโลเมตร
📌 LONG RANGE (V) ราคา 889,900 บาท
ขุมพลังมอเตอร์ไฟฟ้า กำลังสูงสุด 170 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 250 นิวตัน-เมตรแบตเตอรี่ ความจุ 64 kWh ห้ระยะทางวิ่ง ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 540 กิโลเมตร
ขุมพลัง DUAL MOTOR กำลังสูงสุด 435 แรงม้า (320 กิโลวัตต์) กำลังสูงสุดในรุ่น XPOWER แรงบิดสูงสุด 600 นิวตันเมตร อัตราเร่ง 0-100 กิโลเมตร/ชั่วโมง ใน 3.8 วินาที แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC ความจุ 64 kWh ให้ระยะทางวิ่ง ตามมาตรฐาน NEDC สูงสุด 480 กิโลเมตร
✨ MG 4 Electric มีให้เลือก 5 สี ได้แก่ สีฟ้า (Brighton Blue) , สีดำ (Black Knight) , สีแดง (Scarlet Red) , สีเทา (Andes Grey) และสีขาว (Arctic White)