ปัญหารถยนต์ EV มือสองราคาตก


ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คนไทยจำนวนมากไม่ชอบความคิดในการซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองหรือรถยนต์ไฮบริด เนื่องจากกังวลว่าจะต้องเสียค่าซ่อมและหาอะไหล่ที่เท่าไร โดยเฉพาะแบตเตอรี่ที่มีราคาแพงทำให้ราคารถ EV ที่เป็นรถมือสองนั้นตกค่อนข้างเร็ว ซึ่งราคารถยนต์ไฮบริด ปลั๊กอินไฮบริด และรถยนต์ไฟฟ้าใช้แล้วมีราคาลดลงอย่างรวดเร็วนั้นมีราคาที่ต่ำกว่าราคารถยนต์สันดาปทั่วไป ซึ่งปัจจัยอื่นๆ ก็มีผลรวมถึงรถยนต์ยี่ห้อที่เป็นที่นิยมและแบรนด์ที่ไม่นิยมอีกด้วย แล้วอะไรทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้า EV มือสองราคาตก ได้เร็วขนาดนี้ มาดูกัน

รถยนต์ไฟฟ้ามีประโยชน์มากมาย เช่น ความเงียบ ไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง และไม่ต้องใช้น้ำมันเชื้อเพลิง พลังมอเตอร์ไฟฟ้าแรงกว่ารถน้ำมันหลายรุ่น อีกทั้งยังต้องการการบำรุงรักษาน้อยกว่าและอาจขับเองได้ในที่สุดด้วยระบบ Autonomous Car หรือ รถยนต์ไร้คนขับในอนาคตนั่นเอง



รถยนต์ไฟฟ้ามีประโยชน์มากมาย แต่การซื้อและบำรุงรักษาอาจมีราคาแพง บวกกับค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger ด้วยเหตุนี้บางคนจึงอาจเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองแทนรถยนต์ใหม่ ซึ่งธุรกิจรถยนต์มือสองในอนาคตจะมีรถยนต์ไฟฟ้าเก่าจำหน่ายจำนวนมาก ผู้คนสงสัยว่ารถยนต์เหล่านี้จะมีมูลค่าเท่าไรเมื่อขายต่อไปเป็นรถยนต์ไฟฟ้ามือสอง


รถยนต์ไฮบริดมือสองและปลั๊กอินไฮบริดมักจะมีราคาต่ำกว่ารถยนต์สันดาป รถยนต์ไฟฟ้าก็กำลังได้รับความนิยมมากขึ้นเช่นกัน แต่รถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้แล้วยังมีไม่มากนัก การติดตั้งเครื่องชาร์จที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือที่บ้าน (EV Charger) สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ายังมีราคาแพงอีกด้วย ผู้คนต้องใช้เวลาพอสมควรในการทำความคุ้นเคยและนำเทคโนโลยีใหม่นี้มาใช้



รถยนต์ EV มือสองราคาตกเร็วกว่ารถสันดาป เพราะรถยนต์ไฟฟ้ากำลังได้รับความนิยมมากขึ้นในปัจจุบันและเป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ของหลายๆ คน พวกเขามีข้อได้เปรียบเหนือรถยนต์ที่ใช้น้ำมัน แต่สิ่งสำคัญคือต้องจำไว้ว่ามูลค่าการขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้าอาจไม่สูงเท่ากับรถยนต์อื่นๆ ดังนั้นการพิจารณาเรื่องนี้เมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ บางคนกังวลเกี่ยวกับเรื่องราคาเนื่องจากอาจจะต้องขายต่อในอนาคต ล่าสุดเว็บไซต์ที่เชื่อถือได้พบว่าหลังจากผ่านไป 3 ปี ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือสองลดลง 52% ในขณะที่ราคารถยนต์ทั่วไปลดลง 39.1%


โดยสถิติล่าสุดปี 2023 ที่ผ่านมา จากรถยนต์อายุการใช้งาน 5 ปี ที่มีราคาขายต่อลดลงมากที่สุด 5 อันดับแรก 


1. Tesla Model S มูลค่าลดลง 55.5%

2. Chevrolet Bolt EV มูลค่าลดลง 51.1%

3. Nissan Leaf มูลค่าลดลง 50.8%

4. Tesla Model X มูลค่าลดลง 49.9%

5. Tesla Model 3 มูลค่าลดลง 42.9%


จากสถิติรถยนต์อายุการใช้งาน 5 ปี เปอร์เซนต์มูลค่าลดลงนั้นโหดมาก ราคาขายต่อลดลงมากที่สุดจะเห็นได้ว่าทั้งหมดล้วนเป็นรถยนต์ไฟฟ้าทั้งนั้นเลย


อะไรทำให้ราคารถยนต์ EV มือสองราคาตกได้เร็วขนาดนี้ ? 



แบตเสื่อม


รถยนต์ไฟฟ้าสามารถไปได้ไกลมากต่อการชาร์จหนึ่งครั้ง เนื่องจากใช้แบตเตอรี่ชนิดพิเศษที่เรียกว่าแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน แบตเตอรี่เหล่านี้กักเก็บไฟฟ้าได้มาก ใช้งานได้นาน และชาร์จได้เร็ว สามารถวิ่งได้ครั้งละ 500-600 กิโลเมตร ด้วยการชาร์จเพียงครั้งเดียวเท่านั้นและการใช้แบตเตอรี่ลิเทียมไอออนในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาทำให้รถยนต์ไฟฟ้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว และคือสิ่งสำคัญในการขับเคลื่อนสำหรับรถไฟฟ้าในปัจจุบัน


ปัญหาคือแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาสูงมาก ซึ่งปกติจะอยู่ที่ประมาณ 30% ของต้นทุนรวมของรถยนต์ บริษัทที่ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าบอกว่าแบตเตอรี่มีความสำคัญมาก เพราะถึงแม้แบตเตอรี่จะดีในตอนแรก แต่แบตเตอรี่ก็จะเสื่อมสภาพเมื่อเวลาผ่านไป ดังนั้นเมื่อแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฟฟ้าหยุดทำงาน จะต้องเสียเงินเป็นจำนวนมากในการเปลี่ยน แบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าส่วนใหญ่เสนอการรับประกันแบตเตอรี่ประมาณ 8 ปี เพื่อให้แน่ใจว่าลูกค้าจะไม่ต้องจ่ายเงินจำนวนมากหากมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ซึ่งจะช่วยให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าถูกลงเมื่อมีการจำหน่ายอีกครั้ง


โดยเฉลี่ยแล้วรถยนต์ทั่วไปหลังจากผ่านไป 5 ปี รถจะมีราคาลดลง 40% หากใครซื้อรถยนต์ไฟฟ้าที่มีอายุ 5 ปี และมีการรับประกันแบตเตอรี่เหลือ 3 ปี ก็สามารถใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่ในช่วง 3 ปีนั้น หลังจากนั้นจะต้องเปลี่ยนแบตเตอรี่


หากต้องการซื้อรถยนต์ไฟฟ้าอายุ 5 ปี ให้ราคาถูกลง แต่คิดค่าเสื่อมเท่ากันกับรถยนต์สันดาป ผู้ขายก็ต้องลดราคาลงเพราะไม่ค่อยมีคนซื้อ การลดราคาลงเพื่อจูงใจให้คนที่จะมาซื้อต่อ และตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นจนทำให้ค่าเฉลี่ยราคาขายต่อของรถยนต์ไฟฟ้ามือสองนั้นต่ำกว่ารถยนต์สันดาป 


การสนับสนุนจากภาครัฐ


มีเหตุผลหลายประการที่ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือสองถูกลง เหตุผลสำคัญประการหนึ่งก็คือ รัฐบาลในหลายประเทศสนับสนุนให้ผู้คนซื้อรถยนต์ไฟฟ้า ตัวอย่างเช่น ในประเทศไทย ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าไม่ต้องเสียภาษีบางประเภท ซึ่งทำให้การซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามีราคาถูกลง




ราคารถปรับลงอย่างต่อเนื่อง


ผลกระทบใหญ่จากแบรนด์รถยนต์ไฟฟ้าจีนเริ่มหั่นราคา แย่งตลาดและลูกค้า ด้วยการผลิตรถยนต์จำนวนมากพร้อมกันเพื่อลดต้นทุน ทำให้รถของพวกเขาถูกกว่ารถจากประเทศอื่นๆ รถยนต์ไฟฟ้ายี่ห้อใหญ่อื่นๆ ก็ลดราคาลงเพื่อแข่งขันเช่นกัน ซึ่งหมายความว่ารถยนต์ไฟฟ้ามีราคาไม่แพงสำหรับทุกคนทำให้รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นหลัง ๆ มีราคาเริ่มต้นที่ “ถูกลงเรื่อย ๆ” ตอนนี้หากอยากได้รถยนต์ไฟฟ้าสักคันหลักแสนก็สามารถออกรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้ได้แล้ว การขายรถยนต์ไฟฟ้ามือสองอาจเป็นเรื่องยากเพราะการเปลี่ยนแบตเตอรี่อาจมีราคาแพง ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้ามือสองมีราคาใกล้เคียงกับราคาของใหม่นั่นเอง


หลายๆ คนคิดว่าในไม่ช้า การเปลี่ยนแบตเตอรี่จะง่ายและราคาถูกลง เนื่องจากแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนมีราคาถูกลง บริษัทใหญ่กำลังผลิตแบตเตอรี่เพิ่มขึ้นในโรงงานต่างๆ ในประเทศต่างๆ ซึ่งจะทำให้แบตเตอรี่มีราคาไม่แพงมากขึ้นในอนาคต


ถ้าเราคิดว่าควรซื้อรถที่ใช้น้ำมันแทนที่จะซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานไฟฟ้า เราอาจไม่ได้คิดถึงค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมทั้งหมด รถที่ใช้น้ำมันต้องการการบำรุงรักษามากกว่าและมีอะไหล่ราคาแพงกว่ารถยนต์ไฟฟ้า ดังนั้นการที่รถยนต์ไฟฟ้าวิ่งต่อไปจึงมีราคาถูกกว่าในระยะยาว



อย่าลืมโอนกรรมสิทธิ์รถ


หลายๆ คนถามว่าคุณจำเป็นต้องทำอะไรเป็นพิเศษเมื่อซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองหรือไม่ คำตอบคือ ใช่ คุณต้องโอนรถเป็นชื่อของคุณ นี่เป็นสิ่งสำคัญเพื่อให้รถเป็นของคุณอย่างถูกกฎหมายและคุณจะไม่มีปัญหาใดๆ ในภายหลัง มันเหมือนกับการทำให้แน่ใจว่าคุณได้เปลี่ยนการเป็นเจ้าของรถอย่างเป็นทางการแล้ว


เมื่อตัดสินใจซื้อรถต้องโอนเป็นชื่อตนเอง การโอนกรรมสิทธิ์รถ นี่เป็นขั้นตอนสำคัญ แต่ก็ไม่ได้ยากเกินไป ก็สามารถทำได้อย่างรวดเร็ว

1. นำรถยนต์ตรวจสภาพที่ง่ายตรวจสภาพรถ

2. ยื่นเรื่อง “โอนกรรมสิทธิ์” และชำระค่าธรรมเนียมที่งานทะเบียนรถ

3. รับใบคู่มือจดทะเบียนรถคืน

4. รับใบเสร็จรับเงิน ใบคู่มือจดทะเบียนรถ เครื่องหมายการเสียภาษี และแผ่นป้ายทะเบียนรถ


*หมายเหตุ : การโอนกรรมสิทธิ์รถ (โอนรถ) จะต้องยื่นเรื่องแจ้งต่อนายทะเบียน ที่สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานคร สำนักงานขนส่งกรุงเทพมหานครพื้นที่ สำนักงานขนส่งจังหวัดหรือสำนักงานขนส่งจังหวัด (ตามใบคู่มือจดทะเบียนรถ) พร้อมกับแจ้งต่อนายทะเบียน 15 วัน นับตั้งแต่วันโอน ไม่อย่างนั้นจะต้องเสียค่าปรับ จำนวน 2,000 บาท


เอกสารการโอนรถยนต์ที่จำเป็น


1. ใบคู่มือจดทะเบียนรถ หรือเล่มทะเบียนรถตัวจริง

2. สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของรถ

3. สัญญาซื้อขาย ใบเสร็จรับเงิน และใบกำกับภาษี

4. แบบคำขอโอนและรับโอน ที่กรอกรายการและลงลายมือชื่อผู้โอนและผู้รับโอน


ค่าใช้จ่ายโอนรถยนต์


  • ค่าคำขอ 5 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการโอน 100 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการตรวจสภาพรถ 50 บาท
  • ค่าอากรแสตมป์ 500 บาท ต่อการประเมินราคารถ 100,000 บาท
  • ค่าเปลี่ยนป้ายทะเบียน 200 บาท (กรณีผู้ซื้อต้องการเปลี่ยน)
  • ค่าเปลี่ยนเล่มทะเบียน 100 บาท (กรณีเล่มทะเบียนเก่าชำรุดฉีกขาด)

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมจากเว็บไซต์หลักของ “กรมการขนส่งทางบก” 


อย่าลืมประกันรถยนต์


เมื่อโอนรถเรียบร้อยแล้วอย่าลืมโอนประกันรถยนต์ ถ้าไม่ทำคุณจะต้องจ่ายค่าประกันสองเท่า ขั้นตอนต่อไปคือการโอนประกันภัยรถยนต์ หากซื้อรถมือสองมีประกันสามารถโอนประกันได้ 2 วิธี



1. ประกันรถยนต์ไม่ระบุผู้ขับขี่ 

ถ้าประกันไม่ระบุชื่อคนขับก็ต่ออายุได้ทันที คุณจะยังคงได้รับการคุ้มครองตามเดิม

  • สำเนาบัตรประชาชนของเจ้าของเดิม พร้อมเซ็นยินยอมการโอนประกันให้เจ้าของใหม่
  • เจ้าของใหม่ต้องยื่นใบซื้อขายเพิ่ม เพื่อแจ้งขอเปลี่ยนชื่อผู้เอาประกัน
  • ส่งเอกสารไปยังบริษัทประกันรถยนต์ เพียงเท่านี้ก็เสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนประกันรถยนต์แล้ว

 

2. ประกันรถยนต์ระบุผู้ขับขี่

หากประกันมีการระบุชื่อคนขับจำเป็นต้องขอให้บริษัทประกันเปลี่ยนชื่อเสียก่อน

  • เจ้าของใหม่ต้องกรอกแบบฟอร์มโอนชื่อ “ผู้รับผลประโยชน์” จากเจ้าของเดิมมาเป็นของตน
  • ยื่นแบบฟอร์มพร้อมหลักฐานการซื้อขายให้กับบริษัทประกันรถยนต์ เสร็จสิ้นขั้นตอนการโอนประกันรถยนต์


โดยส่วนใหญ่แล้วหากคุณซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามือสองจากเต๊นท์รถ หรือบริษัทใหญ่นายหน้ารถ การโอนรถนั้นผู้ซื้อต้องเป็นคนรับผิดชอบเอง อาจรวมอยู่ในราคาของรถแล้วก็เป็นได้ แต่หากคุณซื้อจากผู้ขายที่ใช้รถและขายเองนั้น ราคาและค่าโอนอาจขึ้นอยู่กับการเจรจาต่อรอง และส่วนใหญ่แล้วประกันรถยนต์นั้นผู้ซื้อจะต้องเป็นคนออกเอง


ตอนนี้การซื้อรถยนต์ระหว่างรถยนต์สันดาปหรือรถไฟฟ้าสักคันนั้นขึ้นอยู่กับแต่ละคนที่จะตัดสินใจบางคนอาจชอบรถยนต์ไฟฟ้าเพราะพวกเขาพอใจกับมัน ในขณะที่บางคนอาจชอบรถยนต์แบบสันดาป สิ่งสำคัญคือต้องเลือกรถที่ทำให้คุณมีความสุขโดยไม่ต้องกังวลเรื่องการขายต่อในอนาคต




ขอบคุณข้อมูล :

ลงทุนแมน

https://www.mreport.co.th/news/statistic-and-ranking/347-ev-bev-register-in-october-2023

https://www.laminafilms.com/th/article/EV-car-battery

https://th.carro.co/blog/electric-cars-in-secondhand-car-market/

www.mrkumka.com